การปรับแต่งรูปทรงริมฝีปากเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะช่วยเสริมบุคลิกภาพ ทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น และสร้างความมั่นใจให้มากขึ้น สองรูปทรงปากที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ ปากกระจับ ซึ่งให้ลุคหวานละมุน และ ปากสายฝอ ที่ดูอวบอิ่ม เซ็กซี่ แต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนที่เหมาะกับคุณ? บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจการเลือกทรงปากที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
ปากกระจับคืออะไร?
ปากกระจับ (Cupid’s Bow Lips) คือทรงปากที่มีขอบปากบนเป็นรูปโค้งเหมือนปีกของกระจับ ทำให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ อ่อนหวาน และมีมิติ ทรงปากแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างปากที่มีความสมดุลตามหลักความงามของชาวเอเชีย
จุดเด่นของปากกระจับ
- ให้ลุคหวานละมุน ดูเป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับคนที่มีโครงหน้าหวานแบบเอเชีย
- ทำให้ริมฝีปากดูมีมิติ ไม่แบนราบ
- เสริมโหงวเฮ้งให้ดูมีเสน่ห์
เทคนิคที่ใช้ในการทำปากกระจับ
- ศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก (Lip Surgery) – เป็นการตัดแต่งริมฝีปากบนให้เป็นทรงกระจับ โดยศัลยแพทย์จะวัดสัดส่วนที่เหมาะสมกับใบหน้า เพื่อให้ได้ทรงที่เป็นธรรมชาติ
- ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ – ใช้ Hyaluronic Acid (HA) Filler เติมฟิลเลอร์บริเวณขอบปากบนเพื่อให้เป็นทรงกระจับโดยไม่ต้องผ่าตัด
- Lip Lifting (ยกมุมปาก) – สำหรับผู้ที่ต้องการให้มุมปากยกขึ้น เพิ่มความสดใสให้กับรอยยิ้ม
ปากสายฝอคืออะไร?
ปากสายฝอ (Full & Plump Lips) เป็นทรงปากที่ได้รับอิทธิพลจากสาวตะวันตก โดยเน้นริมฝีปากที่เต็ม อวบอิ่ม และเซ็กซี่ ทรงปากแบบนี้ให้ลุคที่ดูโดดเด่น และช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น
จุดเด่นของปากสายฝอ
- ให้ลุคเซ็กซี่ โดดเด่น ดูอินเตอร์
- เหมาะกับคนที่ต้องการให้ใบหน้าดูชัดขึ้น
- ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ลดริ้วรอยรอบปาก
- เหมาะกับคนที่มีใบหน้าสายฝอ หรืออยากเปลี่ยนลุค
เทคนิคที่ใช้ในการทำปากสายฝอ
- ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มวอลลุ่มปาก (Lip Augmentation) – เติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มขึ้นโดยใช้ Hyaluronic Acid Filler เช่น Juvederm, Restylane
- Lip Contouring – เติมฟิลเลอร์บริเวณขอบปากเพื่อให้ขอบปากดูคมชัด อวบอิ่มแบบธรรมชาติ
- Russian Lips Technique – เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ที่ดันเนื้อปากขึ้น ทำให้ปากดูอวบอิ่มแบบตุ๊กตารัสเซีย
เปรียบเทียบ ปากกระจับ vs ปากสายฝอ
ปากกระจับ
- ลุคโดยรวม : หวานละมุน ธรรมชาติ
- เหมาะกับโครงหน้า : ใบหน้าหวาน เรียวเล็ก
- เทคนิคที่ใช้ : ศัลยกรรมตกแต่ง, ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ
- ระยะเวลาพักฟื้น :
- ศัลยกรรม : 5-7 วัน
- ฟิลเลอร์ : 2-3 วัน ไม่มีพักฟื้น (ฉีดฟิลเลอร์)
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน :
- ศัลยกรรม : ถาวร
- ฟิลเลอร์: 6-12 เดือน
ปากสายฝอ
- ลุคโดยรวม : เซ็กซี่ โดดเด่น
- เหมาะกับโครงหน้า : ใบหน้าคมเข้ม โครงหน้าชัด
- เทคนิคที่ใช้ : ฉีดฟิลเลอร์เพิ่มวอลลุ่ม, Russian Lips
- ระยะเวลาพักฟื้น :
- ศัลยกรรม : 5-7 วัน
- ฟิลเลอร์ : 2-3 วัน ไม่มีพักฟื้น (ฉีดฟิลเลอร์)
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน :
- ศัลยกรรม : ถาวร
- ฟิลเลอร์: 6-12 เดือน
อยากได้ทรงปากสวย ควรเลือกแบบไหนดี?
- ต้องการลุคหวาน ใบหน้าดูอ่อนโยน → ปากกระจับ
- ต้องการลุคเซ็กซี่ มีเสน่ห์แบบอินเตอร์ → ปากสายฝอ
- ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น → เลือกศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก
- ต้องการปรับเปลี่ยนได้ตามเทรนด์ → เลือกฉีดฟิลเลอร์
คำแนะนำก่อนตัดสินใจทำปากกระจับหรือปากสายฝอ
1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน ศัลยกรรมริมฝีปากและการฉีดฟิลเลอร์
- ตรวจสอบผลงานรีวิว และ Before-After
2. ศึกษาเทคนิคที่เหมาะสมกับตัวเอง
- หากต้องการ ผลลัพธ์ที่ถาวร → แนะนำ ศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก
- หากต้องการ ปรับเปลี่ยนทรงได้ง่าย → แนะนำ ฉีดฟิลเลอร์
3. เตรียมตัวก่อนและหลังทำ
- กรณีศัลยกรรม : หลีกเลี่ยงอาหารแสลง และงดสูบบุหรี่เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น
- กรณีฉีดฟิลเลอร์ : ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความร้อนสูง
สรุป: ปากกระจับหรือปากสายฝอ แบบไหนเหมาะกับคุณ?
- ปากกระจับ → สำหรับคนที่ต้องการลุคหวาน ใบหน้าดูอ่อนโยน น่ารัก และเป็นธรรมชาติ
- ปากสายฝอ → สำหรับคนที่ต้องการลุคเซ็กซี่ อวบอิ่ม ดูโดดเด่นและมั่นใจ
ไม่ว่าคุณจะเลือกทรงปากแบบไหน การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติที่สุด